Audio branding

สร้างแบรนด์ด้วยเสียงดนตรี Audio Branding เจ้าของกิจการควรอ่าน

ครูโอ Uncategorized Leave a Comment

เมื่อพูดถึงการสร้างแบรนด์แล้ว หลายๆบริษัทโฟกัสไปที่ Brand visual Identity ไม่ว่าจะเป็น Logo ธีมสีของแบรนด์ รวมไปถึงรูปแบบแพคเกจจิ้ง รูปแบบสินค้า แต่อย่าลืมว่า มนุษย์เราไม่ได้รับรู้ได้จากการมองเห็นหรือการสัมผัสเพียงเท่านั้น แต่เรายังสามารถรับรู้ได้จากการได้ยิน ดนตรีไม่ได้เป็นเพียงแค่การจรรโลงจิตใจอีกต่อไป หากแต่ผู้รู้เท่านั้นที่จะสามารถนำดนตรีมาใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจ และสร้างแบรนด์ที่เป็นที่จดจำด้วยเสียงดนตรี (Brand sound)

ดนตรีมีอิทธิพลต่อจิตใจของมนุษย์เรา ดนตรีสามารถทำให้เรามีความสุข ทำให้เศร้าก็ได้ จะปลุกใจก็ได้ หรือทำให้เราจดจำเรื่องราวที่สำคัญๆในอดีตที่ผ่านมาก็ได้ ในขณะเดียวกันดนตรียังสามารถช่วยในการโน้มน้าวจิตใจคนได้อีกด้วย แต่เดี๋ยวก่อนนะ มันก็ไม่ใช่ดนตรีทุกชนิดเสมอไป ที่สามารถทำได้อย่างนั้นนะ เหล่านี้ขึ้นอยู่กับการเลือกเสียงที่ใช่ ดนตรีที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแต่ละแบรนด์ต่างหากละ

ดังนั้นการเข้าใจในหลักการของดนตรี เข้าใจในทฤษฎีดนตรีสากลเบื้องต้น จึงค่อนข้างมีความสำคัญสำหรับทุกคน ไม่ใช่แต่นักดนตรีเพียงเท่านั้น แอดได้เขียนบทความเรื่อง คีย์ Eb เมเจอร์ มีอิทธิพลกับสังคมไทยอย่างไร เป็นตัวอย่างการใช้คีย์เพลงแสดงสัญลักษณ์ของความศรัทธา ยกย่อง เทิดทูน และการปลุกใจของชาติ ลองเข้าไปอ่านกันดูนะครับ

ตัวอย่างของแบรนด์ที่นำเสียงดนตรีมาใช้ในการสร้างแบรนด์

ยังไม่ต้องไปไกลถึงแบรนด์ดัง ในบ้านเราหากใครที่เกิดในยุค 90 หรือก่อนหน้านั้นเราจะมีความคุ้นเคยกับ “ก๊วยเตี๊ยวป๊อกแป๊ก” ไม่แน่ใจว่าทุกท่านเรียกว่าอะไรนะ แต่ที่บ้านจะเรียกก๊วยเตี๋ยวป๊อกแป๊ก คือ เป็นก๊วยเตี๊ยวที่หาบขายตามซอยบ้านในสมัยก่อน เวลาอาแป๊ะมาถึงก็จะ เคาะกรับไม้ 2 ครั้ง และก็ตะโกนว่า “ก๊วยเตี๋ยวมาแล้วครับ” วนไปเป็นลูป จนทำให้จดจำได้เลย เมื่อใดที่ได้ยินไอ้เจ้าเสียงกรับดัง จะคิดถึงก๊วยเตี๊ยวอาแป๊ะ เป็นเจ้าแรกเสมอเลย มันเป็นการตลาดที่ยอดเยี่ยมมากเลยคุณว่ามั้ย

อีกตัวอย่างก็คือเสียงดนตรีจากการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็น Window หรือ Mac การแจ้งเตือนของแอพ Line มีใครไม่รู้บ้างว่าเสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าของ Line เป็นยังไง? ทุกคนจะรู้ทันทีใช่มั้ยครับว่านั่นคือข้อความจาก Line

ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ก็ไม่แพ้กัน เสียงประตูเปิดของร้านที่เล่นโน้ต E กับ C หรือคู่ 3 เมเจอร์ กลายเป็น Identity ของ 7-11 ไปแล้ว ไม่ว่าจะได้ยินเสียงนี้จากที่ไหน มันทำให้เรานึกถึง 7-11 โดยทันที แอดเคยมีประสบการณ์ตรงกับขั้นคู่เสียงนี้กับรถเมล์สีขาวสาย 76 ที่ดันเอาเสียงนี้มาใช้สำหรับกดกระดิ่งลง เห้ยมันทำให้นึกถึง 7-11 และสโมกี้ไบท์ขึ้นมาทันที

McDonald ก็มีการใช้ Audio Branding ด้วยเช่นกัน โดยใช้ Jingle “I’m Lovin’ It” เป็น Brand sound เพื่อบ่งบอกถึงลักษณะของแบรนด์ จิตวิทยาของเพลงนี้คือ การใช้เสียงดนตรีทำให้ลูกค้ารู้สึกมีความสุข เพื่อกลบเกลื่อนภาพพจน์ที่ไม่ดีของการบริโภคอาหาร Fast food. จากผลการสำรวจพบว่า 9% ของผู้คนที่เข้าร้าน McDonald บอกว่ารู้สีกมีความสุขกับร้าน McDonald

3 วิธีการสร้าง Audio Branding เพื่อใช้เป็น Brand sound ในธุรกิจของคุณ

ในการโน้มน้าวลูกค้าให้เกิดแรงจูงใจที่จะซื้อสินค้าของคุณนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องสร้างความรู้สึกคุ้นเคยให้กับลูกค้าด้วยเสียงดนตรี ในทุกๆกิริยาบทของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นในขณะเลือกซื้อสินค้า ในขณะที่กำลังชำระเงิน หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ที่ใช้ในร้าน รวมไปถึง Podcast ที่เปิดในร้านของคุณ เมื่อคุณเข้าใจในหลักการนี้แล้ว จากนี้จะเป็น 3 วิธีการเลือกดนตรีที่จะใช้สำหรับแบรนด์ของคุณ

1. รู้จักตัวตนของลูกค้า

แน่นอนหากร้านคุณเป็นร้านสำหรับเด็กวัยรุ่น คุณก็ควรที่จะใช้เพลงที่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน มีความเป็น Freshy เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับลูกค้าของคุณ ดังนั้นสิ่งที่คุณควรพิจารณาเป็นอันดับแรกคือ
• ช่วงอายุของลูกค้าของคุณ
• นอกจากแบรนด์ของคุณแล้ว ลูกค้าได้ชื่อชอบ Brand sound อื่นที่คล้ายกับธุรกิจคุณหรือไม่
• รู้ว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการคืออะไร

2. เลือกอารมณ์ที่จะทำให้โน้มน้าวกลุ่มลูกค้าของธุรกิจคุณ

อย่างที่บอกไปตอนต้นแล้วว่าดนตรีนั้นมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของมนุษย์ทุกคน การเลือกอารมณ์เพลงที่เข้ากับสินค้าหรือบริการของคุณจึงจำเป็นมากๆ เพราะว่าเสียงดนตรีนั้นจะกลายเป็น Signature ของแบรนด์คุณไปโดยทันที ถ้าคุณต้องการสร้างความรู้สึกมีความสุขก็ควรเลือกเพลงที่บ่งบอกถึงความสุข ถ้าคุณต้องการสร้างความรู้สึกอบอุ่นแบบครอบครัวคุณก็ควรเลือกเพลงที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น อย่างนี้เป็นต้น

3. เสียง ที่ใช้ใน Podcast

ทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็น Big C Lotus หรือแม้กระทั่งร้าน 7-11 ก็มีการเปิด Podcast ตลอดและเสียงคนที่พูดนั้น มี Tone เสียงคล้ายกันหมดเลย เป็น Tone เสียงที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเองมากๆ ด้วย ดังนั้นการเลือกคนที่จะเป็นกระบอกเสียงของธุรกิจคุณจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะพวกเขาเหล่านั้นจะเป็นคนที่สะท้อนถึงตัวตนของธุรกิจคุณ

ประยุกต์ใช้ Audio branding กับธุรกิจขนาดเล็ก

Audio branding อาจจะยังไม่ได้อยู่ในแผนธุรกิจของคุณ แต่อย่าชะล่าใจไปครับ Audio branding เริ่มมีบทบาทอยู่ในธุรกิจขนาดใหญ่กันแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ใน Melody เพลง ที่จะทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ แม้กระทั่งลูกค้าไม่ได้อยู่ที่ร้านก็ตาม ทำนองเพลงหรือ Jingle ที่โดนใจทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของเราไปได้ยาวนาน

การสร้าง Brand sound นั้นอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก แต่บทความนี้ แอดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับร้านเล็กๆ ที่ต้องการสร้าง Identity ของร้านตัวเอง อาจจะนำหลักการไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับร้านของคุณได้ ทั้งนี้การเรียนทฤษฎีดนตรีสากล อาจจะช่วยให้คุณเข้าใจในเพลงต่างๆ ได้ดีขึ้น